ผู้ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายประตูเหล็ก ประตูเหล็กกันไฟ ประตูเหล็กบานเลื่อน

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

กระจกอาซาฮี

กระจกลามิเนต ให้ความสดใส... ให้ความปลอดภัย
(ลามิแทค) กระจกลามิเนต ผลิตโดยการนำกระจกตั้งแต่สองแผ่นขึ้นไปมายึดติดกันด้วย
แผ่นฟิล์ม (PVB : Poly Vinyl Butyral) ซึ่งสามารถปกป้องรังสีอัตราไวโอเลตได้กว่า 99%
และมีความเหนียวทนทานซ้อนอยู่ระหว่างกลาง ทำหน้าที่ยึดเกาะให้กระจกติดกัน
ป็นกระจกที่ให้ความปลอดภัยสูงเมื่อถูกกระแทกจนแตก แผ่นฟิล์มจะยึดเกาะมิให้เศษ
กระจกหลุดร่วง จะมีเพียงรอยแตกหรือรอยร้าวคล้ายใยแมงมุมเท่านั้น
และที่สำคัญคือวัตถุที่วิ่งมาชนจะไม่สามารถทะลุผ่านไปได้
(ลามิแทคคูล) นวัตกรรมใหม่จากกระจกไทยอาซาฮี ผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย
โดยการนำกระจกตั้งแต่สองแผ่นขึ้นไปมายึดติดกัน ด้วยแผ่นฟิล์มชนิดพิเศษ
(Solar Control : UV & IR Cut Film) ที่ได้จากการเติมโลหะที่มีคุณสมบัติในการดูดกลืน
ความร้อน ซึ่งฟิล์มดังกล่าวนอกจากจะสามารถป้องกันรังสีอัตราไวโอเลตได้ถึง 99.3-99.8%
แล้ว ยังสามารถป้องกันรังสีอินฟาเรด (IR) ได้มากกว่า 40% เหนือฟิล์ม PVB ทั่วไป * อีกทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (สัญญาณวิทยุ สัญญาโทรศัพท์มือถือ) อีกด้วย
คุณสมบัติเด่น
มีความแข็งแรงและความปลอดภัยสูง เมื่อกระจกเกิดการแตกแผ่นฟิล์มจะเป็นตัวยึดเกาะ กระจกไม่หลุดร่วงลงมาทำให้เกิดอันตราย สกัดกั้นรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ได้มากกว่า 99% ลดปริมาณรังสียูวี ที่ส่องผ่านกระจกไปยังวัสดุที่อยู่ภายใน เช่น เฟอร์นิเจอร์ ม่าน พรม ทำ ให้สีไม่ซีดจาง ขณะเดียวกันยังคงความใสเฉกเช่นกระจกธรรมดา ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ก่อให้เกิดบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย
ป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก ก่อให้เกิดบรรยากาศสบายแก่ผู้อยู่อาศัย และยังช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
เพิ่มความปลอดภัยจากการโจรกรรม เนื่องจากแผ่นฟิล์มที่คั่นอยู่ระหว่างกระจกมีคุณสมบัติที่เหนียวและทนทาน ทำให้วัตถุที่วิ่งมาชนยากต่อการ ทะลุผ่านเข้าไปได้
การใช้งาน
ใช้เป็นหลังคากระจกที่ต้องการให้แสงสว่างเข้าสู่อาคารได้
ผนังของอาคารสูง หรือช่องหน้าต่างอาคารสูง ที่ต้องการความปลอดภัยจากเศษกระจกหลุดร่วงลงมาเมื่อแตก
บริเวณทางเข้าออกอาคาร ตู้โชว์ของมีค่า หน้าร้านค้า ตู้ปลาขนาดใหญ่ กระจกสำหรับราวกันตก
การป้องกันการโจรกรรม และลอบทำร้าย คือกระจกกันกระสุน ซึ่งใช้แผ่นฟิล์มหนาและเหนียวยิ่งขึ้น และใช้กระจกหลายแผ่นซ้อนกัน
ข้อควรระวัง
ควรติดตั้งตามกระบวนการติดตั้งกระจกลามิเนต
ไม่ควรทำให้ขอบกระจกลามิเนตเกิดรอยบิ่น โดยเฉพาะเมื่อติดตั้งกระจกไว้ภายนอก เพราะขอบอาจได้รับความชื้นซึ่งเป็นตัวทำลายชั้นฟิล์ม เป็นสาเหตุให้ฟิล์มแยกตัวออกจากกระจก
กระจกลามิเนตจะเกิดฟองอากาศ เมื่อกระจกมีอุณหภูมิ 70o องศาเซลเซียส หรือสูงกว่าเพราะฟิล์มจะมีการเปลี่ยนคุณสมบัติทางโครงสร้างการยึดเกาะ
ระวังอย่าให้ขอบกระจกถูกสารละลายเพราะจะทำให้ชั้นฟิล์มเสียหาย
ควรทำการวัดขนาดกระจกลามิเนตให้พอดีก่อนการติดตั้ง เพราะกระจกลามิเนตไม่แนะนำให้นำมาตัดในภายหลัง
การนำกระจกแต่ละประเภทมาประกอบเป็นกระจกลามิเนตกระจกลามิเนต สามารถเพิ่มความแข็งแรงทนทานหรือคุณสมบัติอื่น ๆ ได้โดยการนำไปประกอบกับกระจกแต่ละประเภท เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น
กระจกโฟลตใส + ฟิล์ม + กระจกโฟลตใส
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ + ฟิล์ม + กระจกโฟลตใส
กระจกสะท้อนแสง + ฟิล์ม + กระจกกระจกโฟลตใส
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ + ฟิล์ม + กระจกนิรภัยเทมเปอร์
กระจกฮตีสเตร็งเทน + ฟิล์ม + กระจกฮตีสเตร็งเทน
วิธีการติดตั้ง
เพื่อป้องกันน้ำเข้าที่ขอบกระจก ควรใช้วัสดุยาแนวที่มีคุณภาพสูง เช่น Silicon sealant หรือ Polysulfide
ไม่ควรใช้วัสดุยาแนวที่มีส่วนประกอบของสารละลายหรือ oil-based putty
แนวของกรอบกระจก ควรมีร่องระบายน้ำอย่างต่ำที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 5 มิลลิเมตร และควรมีไว้ 3 จุดเพื่อการระบายน้ำที่ดี
วัสดุที่ใช้รองรับวัสดุยาแนว ควรใช้ Polyethylene foam หรือ Chloroprene rubbers
การใช้วัสดุรองกระจก ควรใช้ PVC rasin ที่มีคุณภาพสูง (สำหรับกระจกหนา 6 ม.ม หรือบางกว่า), ยางแข็ง (Chloroprene rubbers หรือ EPDM) ที่ความแข็งอย่างน้อย 90O และควรแยกเป็น 2 จุด เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักได้เท่ากัน
ไม่แนะนำให้ใช้ยางรองที่เป็นรูปตัวยู (U-shape gasket) ในการติดตั้งกระจก เพราะหากมีน้ำซึมเข้าสู่ด้านในกระจกแล้วยากต่อการระบายออก เนื่องจากยางรองซึ่งปิดกั้นขอบกระจก จึงทำให้กระจกเกิดความชื้น และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชั้นฟิล์ม
กระจกเคลือบสี อาซาฮี
กระจกเคลือบสีที่มีความคงทนพิเศษ โดยผ่านกระบวนการเคลือบสีที่ผิวหนึ่งด้านและ อบด้วยความร้อนอุณภูมิสูง ทำให้สีติดแน่น คงความสดใสได้ยาวนาน ทนต่อรอยขีดข่วน และสะดวกต่อการดูแลรักษา คุณสมบัติที่โดดเด่นคือ แสงไม่สามารถส่องผ่านด้านที่ เคลือบสีได้ จึงปกปิดวัสดุจับยึดสำหรับการติดตั้งได้ดี เหมาะสำหรับงานตกแต่งภายใน หุ้มเสา และผนังอาคาร ชั้นวางสินค้า ไวท์บอร์ด ประตูตู้แบบบานเลื่อน
กระจกเสริมลวด อาซาฮี
ด้วยคุณลักษณะของเส้นลวดที่ฝังอยู่ในเนื้อกระจก ทำให้กระจกเสริมลวดมีคุณสมบัติพิเศษในการต้านทานการแตกหลุดร่วงของแผ่นกระจก และป้องกันการลุกลามของเปลวไฟรวมถึงควันไฟได้ นอกจากนี้เส้นลวดที่ฝังอยู่ในเนื้อกระจกทำให้รู้สึกได้ว่าป้องกันขโมยได้
คุณลักษณะพิเศษกระจกเสริมลวด
· ทนความร้อน
กระจกเสริมลวดได้ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีคุณสมบัติแห่งการคงอยู่ของโครงสร้างที่สามารถต้านเพลิงได้ที่อุณหภูมิสูงถึง 925 องศาเซลเซียส นานมากกว่า 1 ชั่วโมง
· เกราะกันเปลวไฟและควันไฟ
- เมื่อกระจกเสริมลวดมีการแตกเกิดขึ้น เส้นลวดที่ฝังอยู่ในเนื้อกระจกจะทำหน้าที่เกาะยึดชิ้นส่วนกระจกไว้ ทำให้กระจกไม่หลุดร่วงเป็นการป้องกันการเกิดช่องที่แผ่นกระจกสกัดกั้นการลุกลามของเปลวไฟและควันไฟต่อไปยังส่วนอื่น- สถิติผู้เสียชีวิตจากไฟไหม้พบว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการสำลักควันไฟ ทำให้ไม่สามารถช่วยตัวเองให้พ้นจากอันตรายได้ การติดตั้ง กระจกเสริมลวด จะสกัดกั้นการแพร่กระจายของควันและเปลวไฟเข้าสู่ทางหนีไฟให้ช้าลงได้ทำให้ผู้ประสบภัยมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น- ตามมาตรฐานโครงสร้างอาคาร เช่น ในประเทศญี่ปุ่น ทางเข้า-ออก อาคารที่อาจเป็นจุดลุกลามของไฟถูกกำหนดไว้ว่าประตูทางเข้า-ออก ต้องใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันไฟดังนั้นกระจกเสริมลวดที่ติดตั้งเข้ากับเฟรมที่ได้มาตรฐานในการป้องกันไฟจึงจัดอยู่ในมาตรฐานที่สามารถป้องกันไฟได้ด้วยเช่นกัน
· เกราะกันการแตกกระจาย
กระจกเสริมลวดที่แตกไม่ว่าจากการแตกด้วยความร้อน แตกด้วยการถูกวัตถุมากระทำ หรือแตกอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว ด้วยคุณสมบัติพิเศษของกระจกเสริมลวด กระจกจะไม่หลุดร่วงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดังนั้นจึงทำให้โอกาสที่จะได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บจากกระจกมีน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการแตกของกระจกแผ่นทั่วไป
· ป้องกันขโมย
ด้วยคุณสมบัติที่ยากต่อการทะลุทะลวงมากกว่ากระจกแผ่นธรรมดา กระจกเสริมลวดจึงเสมือนเป็นอุปสรรคต่อการลักลอบผ่านเข้าออก จึงมีผลทางจิตวิทยาว่าสามารถป้องกันขโมยได้
การใช้งาน
ใช้กับบริเวณทางเข้า-ออก อาคารที่อาจมีการกระจายของเพลิงหรือกลุ่มควัน ปัจจุบันอาคารสูงที่ให้ความสำคัญในด้านมาตรฐานความปลอดภัยจึงนิยมใช้กระจกเสริมลวดติดตั้งในบริเวณดังกล่าว
ใช้กับบริเวณทางเดินหนีไฟ หรือในบริเวณที่ถูกกำหนดไว้เป็นพื้นที่ป้องกันไฟ
ใช้กับบริเวณเพดาน เพดานสูงเปิดรับแสง หรือผนังอาคารที่ทำด้วยกระจก ที่อาจมีการแตกและหลุดร่วงของชิ้นกระจก
ใช้กับบริเวณที่ต้องการความปลอดภัยมากขึ้น เช่น บริเวณรับ-จ่ายเงิน บริเวณเก็บวัสดุไวไฟ การใช้งานอื่น ๆ เช่น ประตู หน้าต่าง บ้านพักอาศัย กระจกหน้าร้านค้า ชั้นโชว์สินค้า ตู้โชว์สินค้า โต๊ะ ฉากและผนังกั้นห้อง งานตกแต่งภายใน
ข้อควรระวัง
เมื่อตัดกระจกเสริมลวด เส้นลวดจะถูกตัดขาด ขอบกระจกด้านที่โดนตัดอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกายได้ ความทนทานของขอบจะลดลง จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้กระจกแตกได้ง่ายขึ้น
พื้นที่ของขอบและของผิวเส้นลวดด้านที่โดนตัดต้องได้รับการเตรียมป้องกันการเกิดสนิม โดยการทาขอบกระจกด้วยสีหรือน้ำยากันสนิมทุกครั้ง ควรระมัดระวังสภาวะการใช้งานโดยเฉพาะความชื้นอันจะทำปฏิกิริยาให้เกิดสนิมกับเส้นลวด ที่จะทำให้เส้นลวดพอง เกิดรอยแตกตรงขอบ และทำให้ความแข็งแรงของขอบลดลง ง่ายต่อการแตกจากความร้อน
กระจกฮีตสเตร็งเทน "ฮีตแทค"
แกร่ง ……….. เป็น 2 เท่า
กระจกฮีตสเตร็งเทน"ฮีตแทค"
ผลิตโดยกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัยโดยการนำแผ่นกระจกธรรมดาผ่านกระบวนการอบความร้อน จากนั้นผ่านกระบวนการทำให้เนื้อกระจกเย็นลงอย่างช้า ๆ โดยใช้ลมเป่าไปยังกระจกทั้ง 2 ด้าน ทำให้ได้กระจกซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษแข็งแกร่งกว่ากระจกธรรมดา 2 เท่า จึงสามารถรับแรงอัดของลมได้ดีกว่ากระจกธรรมดาในความหนาเดียวกัน
คุณสมบัติ
กระจกฮีตสเตร็งเทนสามารถรับแรงอัดของลมได้ดีกว่ากระจกธรรมดาในความหนาเดียวกัน จึงสามารถนำไปใช้ในการติดตั้งกระจกกับโครงสร้างอาคารสูง เหมาะสำหรับการป้องกันการแตกของกระจกเนื่องจากความร้อน กระจกฮีตสเตร็งเทน"ฮีตแทค" มีลักษณะการแตกเหมือนการแตกของกระจกธรรมดา คือ แตกเป็นชิ้นใหญ่ จึงยังคงติดอยู่ที่กรอบหน้าต่างไม่หลุดร่วงลงมา
ความหลากหลาย
กระจกฮีตสเตร็งเทน มีความหนา 6, 8, 10 มม. และสามารถผลิตจาก
กระจกโฟลตใส, กระจกโฟลตสีตัดแสง และกระจกสะท้อนแสง"โซล่าร์แทคฮาร์ด"
การใช้งาน
สามารถใช้แทนกระจกธรรมดา เพื่อลดความหนาของกระจก แต่ให้ความปลอดภัย ใช้กับการติดตั้งโครงสร้างอาคารสูง
สถานที่ที่ต้องเผชิญกับภาวะที่มีความร้อนสูงกว่าปกติ เช่น บริเวณหน้าคานของอาคาร ผนังอาคาร หน้าต่างที่มีแรงอัดลมสูง
สถานที่ที่ต้องการความแข็งแรง และความปลอดภัยสูง
ห้องโชว์ ตู้โชว์สินค้า ที่ต้องทนต่อแรงกระแทกในการใช้งาน
กระจกเทมเปอร์ ความปลอดภัยที่สัมผัสได้ กระจกเทมเปอร์ ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ภายใต้ชื่อทางการค้า
"เทมแทค" (TEMPTAG) ผลิตขึ้นโดยใช้กระจกที่ผ่านกระบวนการอบความร้อนในเตาไฟฟ้าด้วยอุณหภูมิสูงประมาณ 70o องศาเซลเซียส จากนั้นทำการเป่าลมเย็นไปยังผิวกระจกทั้งสองด้าน ด้วยความดันที่เหมาะสม ทำให้ผิวกระจกเย็นลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้เนื้อกระจกที่ผ่านการอบ เกิดคุณสมบัติของกระจกเทมเปอร์
คุณสมบัติ
กระจกเทมเปอร์ มีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา 3-5 เท่า และเมื่อถูกแรงกระแทกจนแตก แผ่นกระจกจะแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปราศจากคม จึงลดอันตรายต่อผู้ใช้
ความหลากหลาย
กระจกเทมเปอร์ มีความหนาที่สามารถผลิตได้ตั้งแต่ 4 ม.ม. ถึง 19 ม.ม. ซึ่งสามารถผลิตจาก
กระจกโฟลตใส, กระจกโฟลตสีตัดแสง และ กระจกสะท้อนแสง"โซล่าร์แทคฮาร์ด"
การใช้งาน
ประตูบานเปลือยและผนังกระจก ทั้งด้านหน้าและภายในตัวอาคาร ซึ่งต้องการความทนทานต่อการใช้งานของผู้คนที่ผ่านเข้าออกอยู่เสมอ
ตู้โทรศัพท์ ห้องโชว์ ตู้สินค้าอัญมณีที่ต้องการความโปร่งใสแต่ทนต่อแรงกระทบกระแทกในการใช้งาน
ฉากกั้นส่วนอาบน้ำ ประตูห้องน้ำ ผนังกั้นภายในอาคารที่ต้องการความสวยเด่นสะดุดตา แต่ยังคงความปลอดโปร่งกว้างขวาง ผนังกระจกของสถานที่ ที่ต้องรับแรงกระแทกที่มีความเร็วสูง เช่น สนามสคว็อช
หน้าต่าง ผนังอาคาร ผนังกระจก ของอาคารในบริเวณที่มีแรงอัดของลมสูง
บริเวณหน้าคานของอาคาร หน้าต่าง ตู้อบไฟฟ้าหรือบริเวณที่ต้องเผชิญกับภาวะความร้อนสูงกว่าปกติ
งานเฟอร์นิเจอร์ เช่น ชั้นวางของ ชั้นโชว์สินค้า
สถานที่ที่คำนึงถึงความปลอดภัยมากถึง 2 ระดับ คือ ต้องการความแข็งแรงสูง และยังคงความปลอดภัยแม้กระจกเกิดการแตก เช่น ผนังอาคารของโรงเรียนอนุบาล ราวบันไดเลื่อน เป็นต้น

กระจกนิรภัยเทมเปอร์ กับการติดตั้งกระจกอาคาร
ใช้วัสดุยาแนวที่มีคุณภาพสูง เช่น Silicone Sealant หรือ Polysulfide Sealant เป็นต้น
ใช้โพลีเอทธิลีนโฟมหรือยางคลอโรฟรีนเป็นวัสดุรองยาแนว
ควรใช้ยางแข็ง Chloroprene Rubber ซึ่งมีความแข็งอย่างน้อยระดับ 90 เป็นวัสดุรองกระจก ( Setting Block ) และ ควรแยกเป็น 2 จุด เพื่อสามารถรับน้ำหนักได้เท่ากัน
ข้อควรระวังของกระจกนิรภัยเทมเปอร์
ตามที่ทราบกันแล้วว่า กระจกนิรภัยเทมเปอร์มีแรงที่อยู่ในสภาวะสมดุลในตัวเอง จึงไม่สามารถตัด เจาะ บากมุม หรือ เจียรขอบได้ภายหลังการผลิต ดังนั้นในการสั่งซื้อจะต้องระบุ ขนาด ตำแหน่งเจาะรู บากมุม และ ลักษณะการเจียรขอบให้ถูกต้องด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ควรปรึกษากับทางบริษัท กระจกไทยอาซาฮี จำกัด (มหาชน) ก่อน หากต้องการบากมุม, ตัดเจาะ หรือ เจียรขอบ เป็นต้น
เนื่องจากกระจกนิรภัยเทมเปอร์ต้องผ่านกระบวนการอบด้วยความร้อนสูง จึงทำให้ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นบิดเบี้ยวกว่ากระจกแผ่นธรรมดาทั่ว ๆ ไป และหากนำกระจกสะท้อนแสงมาผลิตเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์แล้ว ภาพสะท้อนที่บิดเบี้ยวจะเห็นชัดมากขึ้น
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ทนต่อแรงกระแทก และ แรงอัดของลม มากกว่ากระจกธรรมดาที่มีความหนาเดียวกันถึง 3 เท่า และเมื่อเกิดการแตกจะแตกเป็นเม็ดเล็ก ๆ อย่างไรก็ตามการแตกอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นๆ อีกได้
ลักษณะเฉพาะที่สำคัญของกระจกเทมเปอร์
1. การแตกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
กระจกเทมเปอร์จะมีชั้น Compressive Stress อยู่บนผิวหน้าของกระจกทั้งสองข้างและมีชั้น Tensile Stress อยู่ภายในเนื้อกระจก ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้กระจกเทมเปอร์เกิดความสมดุลกัน ถ้ามีรอยร้าวเกิดขึ้นบนผิวกระจกและรอยร้าวนั้นขยายตัวจนถึงชั้น Tensile Stress กระจกจะแตกทันที รอยร้าวของกระจกมี 2 ประเภท
· รอยร้าวที่เกิดจากแรงกระทำจากภายนอก เช่น เมื่อมีของแข็งมากระทบ เป็นต้น
· รอยร้าวที่เกิดขึ้นจากสิ่งเจอปนที่อยู่ในเนื้อกระจกซึ่งในกรณีนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก
2. ลักษณะการแตกของกระจกเทมเปอร์
ลักษณะการแตกของกระจกเทมเปอร์จะพิเศษกว่าการแตกของกระจกชนิดอื่น ๆ คือกระจกอาจจะแตกได้ด้วยตัวของมันเองแม้ว่าจะไม่มีการกระแทกจากภายนอก ซึ่งในกรณีนี้จะไม่เกิดขึ้นกับกระจกทั่วไป
· เมื่อกระจกแตกผิวหน้าของกระจกจะแตกออกเป็นชั้นเล็ก ๆ ทันที
· เศษกระจกอาจจะหลุดร่วงลงมาจากขอบกระจก เนื่องมาจากการติดตั้งกระจกแต่ละวิธี
· เศษกระจกอาจตกลงมาเป็นชิ้น ๆ หรืออาจเกาะกันและตกลงมาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ

วิธีการป้องกันอันตราย
1. วิธีการติดตั้งที่ป้องกันกระจกหลุดร่วง
การติดตั้งโดยใช้ Selant หรือติดตั้งอย่างถูกวิธี จะสามารถป้องกันอันตรายทีเกิดจากเศษกระจกหลุดร่วงเมื่อเกิดการแตกได้
2. วิธีการป้องกันอันตรายจากเศษกระจกแตก
ควรป้องกันการหลุดร่วงของกระจกโดยสำกระจกเทมเปอร์ไปทำเป็นลามิเนต หรือติดฟิล์มที่สามารถป้องกันเศษกระจกหลุดร่วงลงมา เมื่อใช้กระจกเทมเปอร์กับสถานที่ดังต่อไปนี้
· สถานที่ที่มีความลดเอียง เช่น Skylight, Glass ceiling (Atriums) และสถานที่ซึ่งถ้ากระจกแตก เศษกระจกจะตกลงมาทอันตรายต่อบุคคลที่อยู่ข้างล่างได้
· สถานที่ซึ่งอาจเกิดอันตรายได้แม้ว่ากระจกจะติดตั้งในแนวตั้งก็ตาม เช่น หน้าต่าง เป็นต้น
· การติดตั้งกระจกโดยใช้กรอบ เช่น ราวบันได หรือในสถานที่อื่น ๆ ซึ่งถ้ากระจกแตกแล้วเศษกระจกอาจจะหล่นลงมาทำอันตรายได้
3. คำแนะนำในการออกแบบเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากกระจกเมื่อกระจกแตกและหลุดร่วงลงมา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
· ติดตั้งกันสาด หรือใช้วิธีที่คล้ายกันเพื่อป้องกันเศษกระจกชั้นใหญ่ตกลงมาทำอันตราย
· ทำสัญลักษณ์เพื่อให้คนรู้ว่าสถานที่นั้นมีอันตรายจากการตกลงมาของเศษกระจก
กระจกฉนวนความร้อน กระจกฉนวนความร้อน โลว-อี
อนุรักษ์พลังงาน ….. ป้องกันเสียงรบกวน
กระจกฉนวนความร้อน" แพร์แทค" ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยการนำกระจก 2 แผ่น มาประกอบกันโดยมีกรอบอลูมิเนียมคั่นกลาง ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่นำสมัยด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นกระจกที่ช่วยในด้านการประหยัดพลังงาน ป้องกันการถ่ายเทความร้อนระหว่างภายในกับภายนอกอาคาร และป้องกันเสียงรบกวน
กระจกฉนวนความร้อน" แพร์แทค โลว-อี "ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยการนำกระจก 2 แผ่นมาประกอบกันโดยมีกรอบอลูมิเนียมคั่นกลางเช่นเดียวกับกระจกฉนวนความร้อน"แพร์แทค" แต่เพิ่มเติมคุณสมบัติพิเศษโดยการเคลือบสารที่มีคุณสมบัติการแผ่รังสีต่ำที่ผิวของกระจกชั้นที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างช่องอากาศ จึงทำให้กระจกฉนวนความร้อน "แพร์แทค โลว-อี" อนุรักษ์พลังงาน ป้องกันเสียงรบกวน ได้สูงสุด
คุณสมบัติ
สามารถป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกก่อให้เกิดบรรยากาศสบายแก่ผู้อยู่อาศัย
ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ก่อให้เกิดบรรยากาศเป็นส่วนตัวของผู้อาศัย
สามารถป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก จึงช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและพลังงาน
ไม่ทำให้เกิดฝ้าหรือหยดน้ำ แม้ว่าอุณหภูมิภายในกับภายนอกแตกต่างกันมาก
ความหลากหลาย
กระจกด้านนอก สามารถเลือกใช้ได้หลากหลาย อาทิเช่น กระจกใส กระจกโฟลตสีตัดแสง กระจกสะท้อนแสง กระจกเทมเปอร์ กระจกฉนวนความร้อน แพร์แทค และกระจกฉนวนความร้อน" แพร์แทค โลว-อี" มีขนาดความหนาโดยรวมได้ตั้งแต่ 10 ม.ม. – 52 ม.ม.
การใช้งาน
เหมาะกับอาคาร สำนักงาน อาคารพาณิชย์ ร้านค้า บ้านพักอาศัย สถานที่ที่ต้องการควบคุมสภาพแวดล้อมในด้านเสียงและอุณหภูมิ
เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการคุณสมบัติเฉพาะ เช่น โรงแรม อาคารภายในสนามบิน โรงพยาบาล คอนโดมิเนียม และอุตสาหกรรมเครื่องเย็นที่ต้องการโชว์ผลิตภัณฑ์ เช่น ตู้แช่เครื่องดื่ม

ไม่มีความคิดเห็น:

หาอะไรก็เจอ